ข้อมูลทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ ลงเล่นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเกมระหว่างสโมสรรองบ๊วยและรองจ่าฝูงของพรีเมียร์ชิพ เป็นการนำสโมสรที่กำลังย่ำแย่จากผลงานชนะ 4 นัด, เสมอ 6 นัด และแพ้ 15 นัด มาพบกับสโมสรที่มีผลงานตรงข้ามกันพอดีด้วยชัยชนะ 15 นัด, เสมอ 6 นัด และแพ้ 4 นัด เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างสโมสรที่มีฟอร์มการเล่นในบ้านย่ำแย่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2 และสโมสรที่มีฟอร์มการเล่นในเกมเยือนแข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับที่ 2 และยังเป็นการประกบคู่ของสโมสรเจ้าบ้านที่ไม่เสียประตูเพียง 4 นัดเท่านั้นในพรีเมียร์ชิพ พบกับผู้มาเยือนที่ทำประตูไม่ได้ในลีกเพียง 2 นัดเท่านั้นในฤดูกาลนี้ มีเพียงซันเดอร์แลนด์ เท่านั้นที่ไม่เสียประตูเป็นจำนวนนัดน้อยกว่าปอร์ทสมัธ และมีเพียงเชลซี เท่านั้นที่ทำประตูไม่ได้เป็นจำนวนนัดน้อยกว่าปิศาจแดง
ทีมที่กำลังดิ้นรนหนีการตกชั้นจากแดนใต้ยังคงตามหาชัยชนะในลีกครั้งแรกของปี 2006 พวกเขาทำได้เพียง 1 คะแนนจากที่เป็นได้ 15 คะแนนหลังสุด ชัยชนะนัดที่ 3 นับตั้งแต่แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ กลับมาสู่แฟรตตัน พาร์ค จะทำให้พวกเขาแซงเบอร์มิงแฮม ขึ้นไปเป็นอันดับที่ 3 จากท้ายตาราง เนื่องจากทีมจากภาคกลางจะยังไม่ลงเล่นจนกว่าจะถึงวันจันทร์ (เยือนเวสต์ แฮม)
เกมพรีเมียร์ชิพทั้ง 5 นัดระหว่าง 2 สโมสรนี้เป็นชัยชนะของเจ้าบ้านทั้งหมด ปอร์ทสมัธ ชนะ 1-0 ที่สนามแฟรตตัน พาร์ค เมื่อเดือนเมษายน 2004 และ 2-0 เมื่อเดือนตุลาคม 2004 ลูกจุดโทษในครึ่งหลังของเดวิด อันสเวิร์ธ จากการทำฟาวล์ของริโอ เฟอร์ดินานด์ และประตูของยาคูบู เพียงพอสำหรับเจ้าถิ่นในการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้วซึ่งรุด ฟาน นิสเตลรอย กองหน้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ติดโทษห้ามแข่ง ในขณะนี้พวกเขากำลังรักษาสถิติชนะเกมเหย้าในพรีเมียร์ชิพและตามหาชัยชนะในบ้านนัดที่ 3 ในการพบกับปิศาจแดง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะตกเป็นฝ่ายตามหลังเชลซี 18 คะแนนในตอนที่จะเริ่มเล่นเกมนัดนี้ แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าสำหรับพวกเขาคือผลการแข่งขันของลิเวอร์พูล ในการพบกับวีแกน แม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะไม่ต้องเป็นห่วงมากอย่างที่ควรจะเป็น การพ่ายแพ้ของทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ในเกมเยือนชาร์ลตัน เมื่อกลางสัปดาห์ทำให้พวกเขาตามหลังปิศาจแดง 6 คะแนนแต่ลงเล่นน้อยกว่าเพียง 1 นัด ดังนั้นสโมสรแห่งโอลด์ แทรฟฟอร์ด จึงมีโอกาสมากกว่าในการคว้าตำแหน่งรองแชมป์ลีกและได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยอัตโนมัติ
ปิศาจแดง ทำไปแล้ว 1,111 คะแนนนับตั้งแต่พรีเมียร์ชิพเริ่มต้นการแข่งขันเมื่อปี 1992 พวกเขาหวังจะทำสถิติไม่เสียประตูครบ 225 นัดในพรีเมียร์ชิพ เกมลีกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้โดยเฉลี่ยมีประตูเกิดขึ้นนัดละ 3 ประตูพอดีจาก 25 นัดมี 75 ประตู (ได้ 49, เสีย 26) ทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังทำได้โดยเฉลี่ย 1 คะแนนต่อประตูในเกมเยือน (ทำได้ 24 ประตูและ 24 คะแนนจาก 13 นัด) ปิศาจแดง ทำได้ 6 ประตูในช่วง 5 นาทีสุดท้ายของเกมพรีเมียร์ชิพในฤดูกาลนี้ ในขณะที่ปอร์ทสมัธ ทำประตูไม่ได้เลยในช่วงเวลาดังกล่าว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะเกมลีกที่มาเยือนปอร์ทสมัธ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 1987 ชัยชนะ 2-1 ตามมาด้วยชัยชนะ 4-1 ในการกลับไปเล่นในบ้านช่วยให้ปิศาจแดง ชนะทั้ง 2 นัดในเกมลีกที่พบกับทีมปอมปีย์ เป็นครั้งล่าสุดและเป็นครั้งที่ 5 พวกเขามีโอกาสเพิ่มสถิติในฤดูกาลนี้หลังจากเอาชนะไปแล้ว 3-0 ที่โรงละครแห่งความฝัน เมื่อเดือนธันวาคม ประตูจากพอล สโคลส์, เวย์น รูนี่ย์ และฟาน นิสเตลรอย ทำให้ปิศาจแดง ถล่มเอาชนะไปได้ในวันที่มีการจัดพิธีศพของจอร์จ เบสต์ พอดี
ฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ
อยู่อันดับที่ 19 มี 18 คะแนน
ในวันเสาร์ แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ จะกลับมาคุมทีมครบ 66 วัน ในช่วงเวลาดังกล่าวเขาพาทีมคว้าชัยชนะ 2 นัดจากเกมพรีเมียร์ชิพ 10 นัด
ไม่ชนะมาแล้ว 5 นัดในทุกรายการ โดยแพ้ 4 นัดและเสมอ 1 นัดนับตั้งแต่ชนะอิปสวิช 1-0 ที่สนามพอร์ตแมน โร้ด ในเอฟเอ คัพ รอบที่ 3 เมื่อวันที่ 7 มกราคม
คะแนนเดียวที่ทำได้จากเกมลีก 5 นัดมาจากการเสมอ 1-1 ในเกมเหย้าพบกับโบลตัน เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์
ชนะ 1 นัดจากเกมลีก 8 นัด (1-0 เกมเหย้าพบกับฟูแล่ม เมื่อวันสิ้นปี)
ชนะเพียง 2 นัดจากเกมพรีเมียร์ชิพ 14 นัดหลังสุด
ทำประตูได้น้อยที่สุดในลีกฤดูกาลนี้ โดยทำได้ 17 ประตูจาก 25 นัด ซันเดอร์แลนด์ ก็ทำได้เพียง 17 ประตูแต่จาก 24 นัด
ผ่านไปแล้ว 17 นัดในลีกนับตั้งแต่เกมที่เสมอแบบไร้สกอร์ (เกมเหย้าพบกับนิวคาสเซิล เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม)
ทำได้ไม่เกิน 1 ประตูในแต่ละนัดจาก 14 นัด เป็นสถิติยาวนานที่สุดในลีกสูงสุด
ผ่านไปแล้ว 14 นัดในลีกนับตั้งแต่เกมที่ชนะมากกว่า 1 ประตู
การทำได้ 18 คะแนนจาก 25 นัดเป็นสถิติต่ำสุดของปอร์ทสมัธ ในพรีเมียร์ชิพ ก่อนหน้านี้เคยทำได้ต่ำสุด 23 คะแนนในฤดูกาล 2003/04
โดยเฉลี่ยทำได้ 1 ประตูในทุก 132 นาที (2 ชั่วโมง 12 นาที) ของเกมพรีเมียร์ชิพ
แพ้เกมลีก 4 นัดที่ทำประตูขึ้นนำไปก่อน
ชนะเพียงเวสต์ บรอม และฟูแล่ม เท่านั้นในพรีเมียร์ชิพที่สนามแฟรตตัน พาร์ค ในฤดูกาลนี้
แพ้ให้กับสเปอร์ส, ชาร์ลตัน, วีแกน, เชลซี และเอฟเวอร์ตัน ในเกมเหย้าในลีกฤดูกาลนี้
ยังไม่เคยทำได้เกิน 1 ประตูในเกมเหย้าแต่ละนัดในลีกฤดูกาลนี้
เสียไม่เกิน 2 ประตูในเกมเหย้าแต่ละนัดในลีกฤดูกาลนี้
ทำประตูในบ้านได้น้อยกว่าสโมสรอื่นในลีกสูงสุด (7 ประตู)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อยู่อันดับที่ 2 มี 51 คะแนน
ชนะ 5 นัดจาก 6 นัดหลังสุดในทุกรายการ
ชนะ 10 นัดจากเกมพรีเมียร์ชิพ 15 นัดหลังสุด
แพ้ 2 นัดจาก 4 นัดหลังสุดในลีก (1-3 เกมเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ 3-4 เกมเยือนแบล็คเบิร์น)
ทำได้ 10 ประตูจาก 3 นัดหลังสุดในทุกรายการ
การเสมอแบบไร้สกอร์ในเกมเยือนอาร์เซน่อล เมื่อวันที่ 3 มกราคม เป็นเพียงนัดเดียวจากเกมลีก 20 นัดที่ทำประตูไม่ได้นับตั้งแต่เกมพรีเมียร์ชิพอีกเพียงนัดเดียวที่เสมอแบบไร้สกอร์ในเกมเยือนลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 18 กันยายน
แบล็คเบิร์น (2 นัด), มิดเดิ้ลสโบรซ์ และแมนฯ ซิตี้ เป็นสโมสรที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ในลีกฤดูกาลนี้
ต้องการทำอีก 1 ประตูจะทำได้ครบ 50 ประตูในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้
49 ประตูที่ทำได้ในลีกมาจากนักเตะแตกต่างกัน 13 คน
ไม่ชนะในเกมเยือน 4 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ โดยเสมอ 2 นัดและแพ้ 2 นัดนับตั้งแต่ชัยชนะ 2-0 ในเกมเยือนแอสตัน วิลล่า เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม
ทำประตูในเกมเยือนได้มากที่สุดในลีก โดยทำได้ 24 ประตูจาก 13 นัด
เกร็ดน่ารู้ของผู้เล่นทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ
แม็ทธิว เทย์เลอร์ และแกรี่ โอนีล เป็นผู้ทำประตูสูงสุดร่วมกันของปอร์ทสมัธ โดยทำได้คนละ 4 ประตูในทุกรายการ
17 ประตูในลีกของทีมปอมปีย์ มาจากนักเตะแตกต่างกัน 9 คน
ถ้าซาลิฟ ดิเยา ซึ่งยืมตัวมาจากลิเวอร์พูล ลงเล่น จะเป็นการลงเล่นนัดที่ 50 ในพรีเมียร์ชิพ (ลิเวอร์พูล, เบอร์มิงแฮม และปอร์ทสมัธ)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
รุด ฟาน นิสเตลรอย เป็นนักเตะในพรีเมียร์ชิพที่ทำประตูสูงสุดในฤดูกาลนี้ด้วยจำนวน 21 ประตูในทุกรายการ และยังนำเป็นดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ชิพด้วยจำนวน 18 ประตู
ฟาน นิสเตลรอย และเวย์น รูนี่ย์ ทำได้รวมกัน 28 ประตูจากที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ 49 ประตูในลีก
รูนี่ย์ ทำได้ 3 ประตูในการพบกับปอร์ทสมัธ 2 นัดหลังสุด
ถ้าริโอ เฟอร์ดินานด์ ลงเล่นตั้งแต่ต้นเกม จะเป็นการลงเล่นเป็นตัวจริงนัดที่ 150 ให้กับปิศาจแดง
ผลการแข่งขันเกมเยือนปอร์ทสมัธ ในฤดูกาลที่แล้ว
ปอร์ทสมัธ 2 – 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
วันที่ 30 ตุลาคม 2004
ผู้ตัดสิน : นีล แบร์รี่
ผู้ทำประตูให้ ปอร์ทสมัธ : อันสเวิร์ธ น. 53 (จุดโทษ), ยาคูบู น. 72
ผลการแข่งขันที่พบกันนัดแรกในฤดูกาลนี้
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 – 0 ปอร์ทสมัธ
วันที่ 3 ธันวาคม 2005
ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย
ผู้ทำประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด : สโคลส์ น. 20, รูนี่ย์ น. 80, ฟาน นิสเตลรอย น. 84
สถิติการพบกันทั้งหมด
ในลีก ปอร์ทสมัธ ชนะ 16 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 21 ครั้ง, เสมอ 12 ครั้ง
ในพรีเมียร์ชิพ ปอร์ทสมัธ ชนะ 2 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 3 ครั้ง, เสมอ 0 ครั้ง
สถิติการพบกันในเกมเยือนปอร์ทสมัธ
ในลีก ปอร์ทสมัธ ชนะ 10 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 5 ครั้ง, เสมอ 9 ครั้ง
ในพรีเมียร์ชิพ ปอร์ทสมัธ ชนะ 2 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 0 ครั้ง, เสมอ 0 ครั้ง
DaKinG

By Skip